เมื่อวานเตี่ยไปรับผมที่โรงเรียน เตี่ยอาจไม่ตั้งใจก็ได้ เตี่ยอาจแค่ผ่านไปแถวนั้นตอนที่ผมเลิกเรียนพอดี ตามปกติผมเดินไปกลับระหว่างโรงเรียนและบ้านที่อยู่หลังตลาดของเราได้อยู่แล้ว แต่นั่นแหละ ผมเลยได้ซ้อนท้ายจักรยานของเตี่ยกลับบ้าน
เตี่ยผมพูดไม่ชัด ชอบพูดเสียงดังและออกท่าทางเวลาพูดเสมอ แล้วยังชอบพูดมากพร้อมกับหัวเราะเสียงดังไปด้วย เตี่ยผมไม่มีอะไรที่เหมือนฅนไทยเลย ทั้งกิริยาท่าทาง แม้กระทั่งเสื้อผ้าที่เตี่ยใส่ เตี่ยชอบใส่แต่ผ้าเก่าๆ ขาดๆ กางเกงขาก๊วยตัวโปรดของเตี่ยนั้นเก่าขาดจนปะแล้วปะอีก เตี่ยไม่มีอะไรที่เหมือนฅนไทยเลยจริงๆ ผมเคยคิดเหมือนกันนะว่าทำไมเตี่ยจึงไม่เหมือนฅนไทย
เมื่อวานเตี่ยไปรับผมที่โรงเรียน ผมรู้ว่าวันนี้ผมต้องถูกเพื่อนๆ ล้อแน่นอน ‘ลูกตาแป๊ะตูกขาก’
ปกติก็มีบ้างที่ผมจะโดนล้อ แต่วันนี้พวกเขาจะพร้อมใจกันล้อ มันจะกลายเป็นเรื่องสนุกของเด็กพวกนั้น แต่ผมไม่สนใจมันแล้ว ผมแค่คิดว่าผมต้องโดนล้อเท่านั้น
‘ทำไมเตี่ยถึงชอบใส่แต่ผ้าเก่าๆ ขาดๆ ‘
เป็นเพราะเมื่อวานเตี่ยไปรับผมที่โรงเรียน ผมเลยได้คุยกับแม่เรื่องนี้…
‘เพราะเตี่ยแกไม่เคยลืมน่ะสิ’ แม่ตอบพลางมองหน้าผม แม่บอกว่าเตี่ยไม่เคยลืมว่ามาจากไหน เตี่ยจากที่นั่นมาเพราะถูกความแร้นแค้นบีบบังคับ ที่นั่นมีแผ่นดินสีแดงที่ไม่อาจเพาะปลูกอะไรได้ ฅนที่นั่นต้องแย่งกันกินแย่งกันอยู่ แม่บอกว่าบางที่ผมอาจจะนึกไม่ออกหรอก ว่าเตี่ยได้รับความลำบากขนาดไหนถึงต้องทิ้งแผ่นดินบรรพบุรุษมา เตี่ยเคยนอนหนาวโดยไม่มีแม้แต่ผ้าห่มสักผืน มีเสื้อผ้าติดตัวเพียงชุดเดียว และมันทั้งเก่าทั้งขาด นั่นเป็นสิ่งที่เตี่ยไม่เคยลืม
ปากท้องของเราสำคัญที่สุด แม่บอกแบบนั้น ถึงอย่างไรเตี่ยก็ไม่เคยให้เราอด เตี่ยรู้ดีถึงความโหดร้ายของความอดอยาก เตี่ยจึงไม่เคยปล่อยให้เราอด ผมรู้ว่าแม่พูดถูก ถึงเตี่ยจะขี้เหนียวอย่างที่ฅนไทยว่า แต่เตี่ยก็ไม่เคยปล่อยให้เราอด
เมื่อวานเตี่ยไปรับผมที่โรงเรียน จึงไม่ต้องแปลกใจที่วันนี้ผมจะโดนล้อ แต่ผมไม่สนใจหรอก ผมรู้ว่าความไม่สนใจของผมต้องทำให้พวกนั้นหมดสนุกไม่น้อยเลย ไอ้ชัย ไอ้บัติ ไอ้ยศ พวกมันทำหน้าเซ็งและเลิกสนใจผมไปเอง ผมรู้ว่าพวกมันอาจไม่ชอบใจนักหรอกที่การล้อเตี่ยของผมวันนี้ไม่สนุก แต่ผมไม่สนใจ
เมื่อถึงเวลาสิบเอ็ดนาฬิการะฆังเพลก็ดังตรงเวลาทุกวัน เด็กๆ ออกมาหยิบปิ่นโตบนโต๊ะหน้าห้องเรียนเพื่อล้อมวงกินข้าวกัน ปิ่นโตของผมมันเป็นปิ่นโตจริงๆ ผมหมายถึงว่ามันดูใหญ่โตสมชื่อนั่นแหละ และมันก็เก่าจนสีทีเคลือบกะเทาะเป็นแห่งๆ ด้วย ผมเคยอายและแอบอิจฉาเพื่อนๆ ที่มีปิ่นโตใหม่ใบเล็กๆ น่ารักสมกับเด็ก มันดูดีกว่าปิ่นโตของผมที่ทั้งเก่าและดูเทอะทะมากทีเดียว ใช่ ผมเคยอายเรื่องปิ่นโต เหมือนที่เคยอายเรื่องกางเกงเก่าๆ ของเตี่ยนั่นแหละ แต่ผมรู้แล้วว่านั่นไม่สำคัญหรอก ผมยิ้มเมื่อเอาปิ่นโตออกมาขณะที่พวกเรานั่งล้อมวงกินข้าวกัน ปิ่นโตของผมไม่เพียงแต่ใหญ่โตกว่าฅนอื่นเท่านั้น แต่มันยังมีกับข้าวอร่อยๆ มากกว่าฅนอื่นด้วยเช่นกัน.
ภาพประกอบ: pixabay.com