ผมมีความเชื่อผิดๆ อยู่อย่างหนึ่งที่เคยเชื่อว่า เด็กยุคใหม่จะสูบบุหรี่กันน้อยลง
ใช่ครับมันเป็นความเชื่อที่ผิดแถมโง่บัดซบอีกต่างหาก ผมคิดเพียงว่าเด็กยุคใหม่จะมีความรู้กันมากขึ้น รู้จักแยกแยะอะไรได้มากกว่าคนยุคก่อนที่ไม่รู้ถึงโทษภัยของบุหรี่กันมากนัก... นั่นแหละครับที่ผมคิดผิด
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผมเข้าใจได้แบบนั้นก็คือ ในยุคสมัยที่ผมเป็นเด็กนั้น คนเฒ่าคนแก่ส่วนใหญ่จะสูบบุหรี่กันแทบทุกคน (จากค่านิยมสมัยเก่า) ส่วนด็กๆ นี่จะค่อนข้างแบ่งแยกชัดเจนระหว่างพวกที่สูบกับไม่สูบ เด็กที่สูบบุหรี่ก็จะเป็นเด็กที่ชอบทางนักเลง (อันธพาล) เด็กที่มีปัญหา หรืออะไรที่เป็นไปในทางลบ ส่วนกลุ่มเด็กดี (ไม่ได้บอกว่าเรียบร้อยนะครับ บางคนนี่ทะโมนเลยแต่ไม่ชอบอันธพาล แบบนั้นผมถือเป็นเด็กดีครับ) จะไม่สูบบุหรี่ และแนวโน้มค่อนข้างดีทีเดียวว่าเด็กยุคใหม่จะสูบบุหรีกันน้อยลง... มุมมองสมัยนั้นเด็กที่สูบบุหรี่คือเด็กอันธพาลเกเร...
ก็ไม่รู้ว่าโลกมันหมุนกลับด้านหรืออย่างไร จากที่เคยมองกันว่าเด็กที่สูบบุหรี่เป็นเด็กเก (เร) เดี๋ยวนี้กลับมองว่าคนที่ไม่ดูดบุหรี่เป็น เกย์ ไปเสียอย่างนั้น จึงทำให้สมัยนี้จะดีหรือจะเกเร หากเป็นเด็กผู้ชายต้องสูบบุหรี่ ซึ่งตรงนี้ก็ยอมรับว่าไม่เข้าใจเหมือนกัน เพราะผมก็ยังเห็นว่า คนที่เป็นเกย์ส่วนใหญ่ก็ดูดบุหรี่นะ
"การอดบุหรี่ไม่ใช่ของยาก ผมเคยทำได้ ร้อยกว่าครั้งมาแล้ว"
ข้อความนี้ผมจำไม่ได้แล้วว่าใครได้กล่าวไว้ ชอบตรงที่มันอธิบายได้เป็นอย่างดีถึงความยากของการเลิกบุหรี่ ผมจึงมักจะบอกเด็กๆ ที่พอจะยอมรับฟังผมเสมอว่าการดูดบุหรี่น่ะมันไม่ยากหรอก ใครๆ ก็ทำกันได้ (ถ้าจะทำ) แต่ที่ยากจริงๆ คือการเลิกเมื่อติดบุหรี่แล้วต่างหาก และผมยังเชื่อว่าคนที่ติดบุหรี่จนถึงระดับหนึ่งนั้นส่วนใหญ่ อยากเลิกแต่ทำไม่ได้
ข้อความนี้ผมจำไม่ได้แล้วว่าใครได้กล่าวไว้ ชอบตรงที่มันอธิบายได้เป็นอย่างดีถึงความยากของการเลิกบุหรี่ ผมจึงมักจะบอกเด็กๆ ที่พอจะยอมรับฟังผมเสมอว่าการดูดบุหรี่น่ะมันไม่ยากหรอก ใครๆ ก็ทำกันได้ (ถ้าจะทำ) แต่ที่ยากจริงๆ คือการเลิกเมื่อติดบุหรี่แล้วต่างหาก และผมยังเชื่อว่าคนที่ติดบุหรี่จนถึงระดับหนึ่งนั้นส่วนใหญ่ อยากเลิกแต่ทำไม่ได้
และตรงนี้คงไม่ใช่ความเชื่อแบบผิดๆ แน่นอนครับ.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น