เมื่อผมบอกว่าไม่เชื่อเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่เชื่อและไม่ศรัทธา ก็มักจะมีคำถามสวนกลับเข้ามาในทำนองว่า แล้วผมนับถือศาสนาอะไร ผมมีศาสนาไหม ซึ่งผมก็มักจะถามกลับว่า แล้วมันเกี่ยวอะไรกับศาสนา (ทั้งที่จริงผมต้องถามกลับด้วยซ้ำว่าฅนที่เชื่อน่ะศาสนาไหน)
ผมมีศาสนาสิครับ ศาสนาที่สอนไม่ให้งมงาย ศาสนาที่สอนให้ยึดหลักความจริง ศาสนาที่ไม่เคยสอนให้อ้อนวอนขอจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ศาสนาที่สอนให้พึ่งตนเอง ศาสนาที่บอกว่าทำสิ่งใดได้สิ่งนั้น และผมไม่ได้ศรัทธาศาสดาจากความศักดิ์สิทธิ์ แต่ผมศรัทธาในคำสอนที่เป็นจริงอย่างลึกซึ้งนั้นต่างหากครับ คงไม่ต้องบอกหรอกนะครับว่าผมนับถือศาสนาอะไร
การที่ไม่ศรัทธาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ทำให้ผมเป็นฅนไร้ศรัทธาหรอกนะครับ เพราะถึงอย่างไรผมก็เชื่อในพลังของศรัทธา ผมเชื่อว่าทุกสิ่งเป็นไปได้ด้วยพลังศรัทธา โดยไม่ต้องอาศัยสิ่งศักดิ์สิทธิ์เลยด้วยซ้ำ
อธิบายได้ดังนี้ หากคุณยังจำเรื่องราวของเด็กชายเคอิโงะได้ คุณคิดว่าการที่เขาได้เจอพ่อ ซึ่งมันแทบเป็นไปไม่ได้เลยว่าจะมาจากการถือรูปพ่อเดินถามนักท่องเที่ยว คุณว่าเป็นเพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือเพราะพลังศรัทธาที่เขาเชื่อว่าเขาต้องได้เจอพ่อ คุณอาจบอกว่าเป็นเพราะนักข่าว เป็นเพราะสื่อ แต่ต้องไม่ลืมว่าสื่อนั้นเข้ามาหลังจากที่เขาได้แสดงความมุมานะจากพลังศรัทธาออกมาให้ได้เห็น เพราะที่เขาทำนั้นมันไม่ใช่แค่วันสองวัน หรือเดือนสองเดือน หากไม่มีศรัทธา หรือไม่มีความเชื่อที่ว่าเขาต้องได้เจอพ่อแล้ว เขาคงไม่ยืนหยัดได้ขนาดนั้นหรอก จริงไหมครับ
เช่นเดียวกับคนที่มีชื่อเสียงหลายๆ ท่านไม่ว่าจะเป็นนักกีฬา นักร้องนักแสดง หรืออาจจะนักเขียนก็ตาม หลายฅนที่ประสบความสำเร็จนั้นมาจากความคิด ความเชื่อ หรือความศรัทธาที่ว่า ฉันต้องทำได้ แน่นอนว่าหลายๆ ความเชื่อความศรัทธาที่ว่านี้ต้องมีที่มาจากความชอบหรือใจรักเป็นส่วนประกอบด้วย ซึ่งแค่ใจรักอย่างเดียวคงไม่พอแน่ อย่างเช่นสมมุติว่าคุณอยากเป็นนักเขียน แต่กลับติดที่ว่าคุณเรียนมาน้อย ไม่มีความรู้ ไม่มีพื้นฐานด้านภาษา มีแต่จินตนาการกลับถ่ายทอดไม่ได้เรียบเรียงไม่ถูก หรือะไรอีกก็แล้วแต่ หากคุณคิดแบบนั้นคุณคงเป็นได้แค่นักอ่าน และคงไม่ได้เป็นแม้กระทั่งนักอยากเขียน
อย่างไรก็ตามไม่ว่าคุณจะเป็นนักเขียน นักอ่าน หรืออะไรที่คุณเป็น และกระทั่งที่ผมเป็น ผมเชื่อว่าล้วนมาจากความคิด ความเชื่อ ความศรัทธา หรือความไม่ศรัทธานั่นแหละครับ... สุดท้ายที่อยากฝากไว้ก็คือ
"การศรัทธาในสิ่งซึ่งควรศรัทธา นั้นเป็นมงคลต่อชีวิต"
"แต่การศรัทธาแบบไม่ลืมหูไม่ลืมตา นั้นเขาเรียกว่า... งมงาย"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น