welcome



ยินดีต้อนรับทุกท่านครับ

วันจันทร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ลอยเรือ



          จังหวัดเล็กๆ สุดชายแดนตะวันออกของไทย บ้านเกิดที่ผมเพิ่งได้กลับมาเยือน... เสียงประทัดดังอยู่เป็นระยะ ถึงจะโดนด่า โดนว่ากันทุกปี แต่ก็ไม่เคยห้ามเด็กพวกนี้ได้สักที เสียงประทัดกับเด็กๆ ในวันออกพรรษาแบบนี้ จึงเป็นของคู่กันมาตลอด วันนี้ฅนเยอะเหมือนทุกปี ภาพชาวบ้านหิ้วปิ่นโต หิ้วกระเช้าใส่ข้าวต้มมัด บ้างมีกล้วย อ้อย มะลอกอ หรือแม้แต่มะพร้าวอ่อนพะรุงพะรังก็ยังเป็นภาพที่เห็นกันได้ในทุกปีเช่นกัน

          ผมเดินเก็บภาพบรรยากาศของวันนี้ไปเรื่อยกับมือถือคู่ใจนั่นแหละทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ ภาพอาจจะไม่สวยเหมือนกล้องจริงนัก แต่ก็เพียงพอกับการนำไปใส่บล็อก หรืออวดเพื่อนในสังคมออนไลน์ของผมได้แล้ว

          เสียงพระสวดมนต์ดังจากศาลาในขณะที่ผมยังเดินถ่ายภาพอยู่ด้านนอก เห็นเด็กๆ เล่นสนุกแล้วทำให้อดยิ้มและนึกย้อนไปยังคืนวันเเก่าๆ ไม่ได้ ถึงวันนี้อะไรๆ จะแตกต่างจากเดิมไปมาก แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ยังดีที่ยังมีวันนี้ให้ได้ย้อนรำลึกถึงช่วงเวลาเก่าๆ กัน

          เรือที่ทำขึ้นง่ายๆ ตามวัสดุที่หาได้สามลำจอดอยู่หน้าวัด มันคือจุดประสงค์หลักในการมาบันทึกภาพของผมในครั้งนี้...
          ประเพณีลอยเรือ นับเป็นประเพณีที่มีเหลืออยู่น้อยมากแล้วตามวัดต่างๆ ในแถบนี้

          "วันนี้เป็นวันปล่อยผี" คำบอกเล่าเก่าๆ ย้อนมาในความทรงจำ

          "พวกผีต่างๆ จะออกมามากมายในวันนี้ ทั้งมีญาติ และไม่มีญาติ"

          ผมเริ่มถ่ายภาพชาวบ้านนำข้าวของต่างๆ มาใส่ในลำเรือ ถ่ายมั่วๆ ไว้ก่อน แต่ก็พยายามที่จะจัดมุมบ้างนิดหน่อย กล้วย อ้อยขนมถูกนำมาใส่ บางฅนก็มีค่าลากเรือให้กับผู้ที่ยืนรอลากซึ่งจิบเหล้าไปพลางส่งเสียงเชิญชวน
          "นี่มึงแบ๊งค์ร้อยนะมึง แย่งกันเองนะ" ป้าจิตรหยิบแบ๊งค์ร้อยชูให้เด็กที่ยืนล้อมดูก่อนพับใส่ในกล่องไม้ขีดไฟวางไว้ปนไปกับสิ่งของต่างๆ ในลำเรือ พวกเด็กๆ หันมองหน้าแล้วฉีกยิ้มให้กัน... ผมต้องรีบไปถ่ายภาพการตักบาตรอาหารแห้งก่อนที่จะมาถ่ายภาพพิธีลอยเรือต่ออีก วุ่นวายกันพอควรทีเดียวกับพิธีที่มีขึ้นพร้อมๆ กันแบบนี้

          เมื่อฅนเฒ่าฅนแก่นำสวดมนต์ตั้งจิตอธิษฐานเสร็จ เรือจำลองสามลำก็ถูกลากออกไปอย่างรวดเร็ว ข้าวของที่วางล้นลำเรือ บ้างหกหล่นลงมาให้พวกเด็กๆ ได้วิ่งแย่งเก็บกันเฮฮา

          ความรู้สึกเก่าๆ มันย้อนกลับมาอย่างช่วยไม่ได้ เกิดนึกอยากเล่นสนุกเหมือนตอนเป็นเด็กขึ้นมา ผมมองข้าวต้มมัดร่วงหล่นท่ามกลางผู้ฅนที่วิ่งชิงกันพลางเก็บโทรศัพท์ ก่อนออกวิ่งแย่งชิงกับพวกชาวบ้านและเด็กๆ

          "ของที่อยู่ในเรือน่ะ เขาเอาไว้ให้ภูติผีได้แย่งกัน"

          ผมคว้าข้าวต้มมัดที่อยู่กับพื้น พร้อมๆ กับที่ใครฅนหนึ่งมาฉวยมันได้พร้อมกัน โดยมือเขานั้นกุมมือผมอยู่
          "ผมได้ก่อนนะ" ผมร้องบอกแต่มือนั้นยังคงกุมแน่น ให้ตายเถอะ! ผมเพิ่งสังเกตผิวหนังที่แห้งซีดออกเขียวของมือข้างนั้นก่อนหันหน้าช้าๆ มองดูเขา
          "เฮ้ย!" ผมหลุดปากร้องเสียงดัง ร่างนั้นไม่ใช่ฅน ไม่ใช่ร่างเดียว แต่มีมากมายที่วิ่งแย่งสิ่งของปนไปกับชาวบ้านและพวกเด็กๆ และพวกนั้นคงไม่มีใครเห็นเหมือนที่ผมเห็นแน่ เพราะพวกเขายังคนสนุกสนานเฮฮากับการวิ่งแย่งสิ่งของปนไปกับพวกภูติผีปีศาจนั่น

          ได้แต่ยืนตะลึงตาค้าง นิ่งมองภาพที่น่าสยดสยองเบื้องหน้า... กลิ่นควันธูปจางๆ กับความรู้สึกหิวเหมือนทำให้ได้สติ ผมวิ่งเข้าไปในกลุ่มที่กำลังแย่งชิงสิ่งของนั่นอย่างไม่รอช้า... เปล่า ผมไม่ได้เข้าไปแย่งชิงขนมกับชาวบ้านและพวกเด็กๆ หรอกนะ แต่ที่ผมต้องแย่งกับมันก็คือพวกพวกผีเปรตเหล่านี้ต่างหาก.



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น